โคลอสตรุ้ม (Colostrum) คืออะไร?มีประโยชน์จริงหรือ?

โคลอสตรุ้ม (Colostrum) คืออะไร?มีประโยชน์จริงหรือ?

โคลอสตรุ้ม (Colostrum) คืออะไร

โคลอสตรุ้ม (Colostrum) คือ สารตั้งต้นของน้ำนมที่คุณแม่ลูกอ่อนสร้างขึ้นหลังจากที่คลอดลูกได้ 24-36 ชั่วโมง หรือที่เรียกกันว่า นมน้ำเหลือง โคลอสตรุ้มจัดเป็นสารอาหารธรรมชาติที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เนื่องจากองค์ประกอบที่มีปัจจัยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Immune Factors) ปัจจัยช่วยในการเจริญเติบโต (Growth Factors) และปัจจัยเสริมทางโภชนาการ (Nutrient Factors) เหนือกว่านมโคที่เราบริโภคกันทั่วไป

จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า ปัจจัยช่วยในการเจริญเติบโตที่มีอยู่ในโคลอสตรุ้มธรรมชาติจากแม่วัวมีองค์ประกอบหลักแทบจะเหมือนกันทุกประการกับโคลอสตรุ้มจากนมแม่ของมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้น การวิจัยยังพบว่าโคลอสตรุ้มจากวัวมีองค์ประกอบของปัจจัยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสูงกว่าโคลอสตรุ้มจากนมแม่ถึง 40% ดังนั้นโคลอสตรุ้มจากวัวจึงมีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างเซลล์ใหม่ให้กับร่างกายไม่ต่างไปจากโคลอสตรุ้มจากมนุษย์ และจัดเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในการบริโภคเสริม

 

 

โคลอสตรุ้ม (Colostrum) มีประโยชน์อย่างไร

โคลอสตรุ้มประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ทางด้านต่างๆ ได้แก่ สารอาหารที่มีสมบัติในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สารอาหารที่มีสมบัติช่วยในการเจริญเติบโต และสารอาหารที่เป็นปัจจัยเสริมทางโภชนาการ ซึ่งสารอาหารดังกล่าวมีคุณสมบัติอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกายที่แตกต่างกัน โดยจำแนกเป็นกลุ่มได้ดังนี้

 

  1. สารอาหารในกลุ่มปัจจัยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Immune Factors)
  • อิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulin) IgG, IgA, IgM, IgE, IgD: สารภูมิต้านทาน (Antibody) ที่สำคัญต่อการตอบสนองและต่อสู้กับอาการติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรีย
  • โปรตีนแลคโตเฟอริน (Lactoferrin): ตัวการต้านทานเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่ทำหน้าที่จำกัดการกระจายตัวของเชื้อไวรัส อาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย และการกลายพันธุ์ของเซลล์ในร่างกายเนื่องมาจากการติดเชื้อ
  • โพรลีน (Proline): กรดอะมิโนชนิดสหโมเลกุล (Polypeptides) ที่สำคัญต่อการสร้างสมดุลให้กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • โอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharides): สารประกอบคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ยึดเกาะกับตัวแบคทีเรียเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าสู่ผนังลำไส้
  • โปรตีนไซโตไคน์ (Cytokines): สารที่เป็นสื่อกลางส่งสัญญาณระหว่างเม็ดเลือดขาวเพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อ จำพวกอินเตอร์ลิวคิน ชนิด 1 และ 6 (IL-1 & IL-6), โปรตีนอินเตอร์เฟอรอน (Interferon) ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมการเจริญของเม็ดเลือดขาว และสารลิมโฟไคเนส (Lymphokines) ที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อสั่งการให้เซลล์กำจัดเชื้อไวรัส รวมกันเป็นกระบวนการที่ทำให้มั่นใจได้ว่าร่างกายผลิตสารอิมมูโนโกลบูลินได้เพียงพอต่อการตอบสนองทางด้านภูมิคุ้มกัน
  • ไลโซไซม์ (Lysozymes): ทำหน้าที่ทำลายไวรัสและแบคทีเรีย
  • แล็คตัลบูมิน (Lactalbumin): โปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มระดับของสารเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมอง ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยควบคุมอารมณ์ และทำให้รู้สึกผ่อนคลายภายใต้ภาวะความตึงเครียด
  1. สารอาหารในกลุ่มปัจจัยที่ช่วยในการเจริญเติบโต (Growth Factors)
  • IgF 1 และ IgF 2: ปัจจัยช่วยในการเจริญเติบโตที่มีสมบัติเหมือนฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin-like Growth Factor) ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและคลอเรสเตอรอลในเลือด โดยการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน เปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสในเลือดให้กลายเป็นพลังงาน
  • TgF A และ B (Transforming Growth Factor A & B): โปรตีนที่มีสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และฟื้นฟูเนื้อเยื่อใหม่ทั้งในเซลล์ผิว และเซลล์ของกระดูก
  • EgF (Epidermal Growth Factor): โปรตีนที่มีโครงสร้างเหมือนกรดอะมิโน ช่วยสร้างเนื้อเยื่อทดแทนเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย ให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วและสมบูรณ์ ปกป้องและคงสภาพผิวที่ดี
  • โกรทฮอร์โมน HgH (Human Growth Hormones): สร้างสมดุลการเจริญเติบโต เสริมสร้างความสูง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และทำให้กลไกของความชราทำงานช้าลง
  • PdgF (Platelet-derived Growth Factor): โปรตีนในเกล็ดเลือดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เนื้อเยื่อและเร่งกระบวนการสมานบาดแผล
  • FgF (Fibroblast Growth Factor): โปรตีนที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และไม่อ่อนคล้อย
  1. สารอาหารในกลุ่มปัจจัยเสริมทางโภชนาการ (Nutrient Factors)
  • แคลเซียม: คงความแข็งแรงของกระดูก และควบคุมความคงที่ของระดับความดันเลือด
  • ฟอสฟอรัส: ช่วยให้ร่างกายผลิตพลังงาน และช่วยให้กระดูกยังคงสภาพที่แข็งแรง
  • โปรตีน: กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่สึกหรอ
  • วิตามิน A, D, E และ K: คงความสุขภาพดีของดวงตา ผิวหนัง และเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย สร้างสมดุลให้กับระบบภูมิคุ้มกัน
  • วิตามิน B: ช่วยบำรุงเซลล์ประสาท และระบบเผาผลาญให้ทำงานคงที่

 

จะเห็นว่า โคลอสตรุ้มอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะคุณสมบัติที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต และสร้างเซลล์ใหม่ให้กับร่างกาย

แหล่งโคลอสตรุ้มธรรมชาติที่ดีที่สุดของมนุษย์คือน้ำนมแม่ ดังนั้น การให้เด็กทารกได้รับนมแม่อย่างเพียงพอเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของสุขภาพเด็กในวัยแรกเกิด อย่างไรก็ดี โคลอสตรุ้มจากวัวก็ทำให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์เชิงทดแทนได้ในระดับที่ดีและปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถบริโภคเสริมได้ในทุกช่วงอายุ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์โคลอสตรุ้มในท้องตลาดมีมากกว่า 500 ยี่ห้อที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์ โดยมีอยู่ทั้งในรูปแบบเม็ดแคปซูล สเปรย์ และผง เราจึงสามารถเลือกสรรผลิตภัณฑ์ได้จากความน่าเชื่อถือ ผลการวิจัย และปริมาณสารอาหารในโคลอสตรุ้มที่พอดีกับความต้องการ

 

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ !

IgCo Colostrum Milk มีปริมาณ Immunoglobulin-G 150 มิลลิกรัม ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค (15 กรัม) หรือคิดเป็น 15%

 

กลับไปยังบล็อก